การศึกษาและการหมั้นหมาย ของ จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี

จักรพรรดินีฟาราห์ได้รับการศึกษาภายในประเทศในโรงเรียนอิตาเลียนที่เตหะราน จากนั้นย้ายไปยังโรงเรียนฌาณส์ เดอ อาร์ก ฝรั่งเศสจนกระทั่งมีพระชนพรรษา 16 พรรษา และหลังจากนั้นได้เข้าศึกษาในโรงเรียนราซี[10] พระองค์ทรงเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จในวัยเยาว์และทรกลายเป็นกัปตันทีมบาสเก็ตบอลประจำโรงเรียนของพระองค์ หลังจากทรงจบการศึกษาจากโรงเรียนราซี พระองค์ทรงสนพระราชหฤทัยในสถาปัตยกรรมโดยทรงเข้าศึกษาต่อที่สถาบันศึกษาสถาปัตยกรรมศาสตร์ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งทรงเป็นนักศึกษาของอัลแบร์ แบซซัน

นักศึกษาชาวอิหร่านหลายคนได้รับการศึกษาจากต่างประเทศในช่วงนี้ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของรัฐ ดังนั้นเมื่อชาห์ในฐานะทรงเป็นประมุขแห่งรัฐต้องเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ พระองค์มักโปรดฯให้นักศึกษาชาวอิหร่านในพื้นที่นั้นเข้าเฝ้า เป็นช่วงของการเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ในปี ค.ศ. 1959 ที่สถานเอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงปารีส ซึ่งนางสาวฟาราห์ ดีบาได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวีครั้งแรก

หลังจากเสด็จพระราชดำเนินกลับมายังเตหะรานในฤดูร้อน ปี ค.ศ. 1959 พระเจ้าชาห์และนางสาวฟาราห์ ดีบาได้เริ่มมีความสัมพันธ์กันอย่างระมัดระวังเพื่อเตรียมการในส่วนของพระราชธิดาซึ่งก็คือ เจ้าหญิงชาห์นาซ ปาห์ลาวี ทั้งสองพระองค์ทรงหมั้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 พฤศจิกายน ค.ศ. 1959

แหล่งที่มา

WikiPedia: จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี http://www.parlament.gv.at/PAKT/VHG/XXIV/AB/AB_105... http://irancollection.alborzi.com/ http://orderofsplendor.blogspot.com/2012/02/weddin... http://abcnews.go.com/International/story?id=44069... http://books.google.com/books?id=ZlptU4A2HkUC&prin... http://books.google.com/books?id=pTVSPmyvtkAC&pg=P... http://www.nationalreview.com/articles/210633/shah... http://www.nytimes.com/2004/05/02/books/the-last-e... http://www.payvand.com/news/05/oct/1085.html http://www.payvand.com/news/07/mar/1060.html